“เพราะพระองค์ทรงอยู่”
เพลงบทหนึ่งที่เราร้องอยู่เสมอก็คือเพลง “เพราะพระองค์ทรงอยู่” เนื้อร้องในตอนหนึ่งมีดังนี้
“เพราะพระองค์ทรงอยู่ ข้าเผชิญพรุ่งนี้ได้ เพราะพระองค์ทรงอยู่ความกลัวหายไป เพราะข้าแน่ใจ แน่ใจ พระองค์ทรงนำหน้า ข้าจะอดทนเพราะข้าแน่ใจ พระองค์ทรงอยู่…”
เนื้อหาของบทเพลงนี้เป็นหลักสำคัญของคริสเตียนทุกคนที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจ และยึดมั่นในการดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าจนวันสุดท้ายของชีวิต เป็นความเชื่อที่มาจากการที่ทุกคนได้สัมผัสในพระคุณและความรักของพระเจ้า ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ อันเป็นผลที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของเราอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ เลยว่าวันนี้พระเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่และยังทรงเป็นอยู่ไปจนชั่วนิจนิรันดร์ ดังที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงตรัสกับบรรดาอัครสาวกและบรรดาผู้เชื่อทั้งหลายว่า “นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” (มัทธิว 28:20)
ถ้าหากพระเยซูคริสต์ตายไปเหมือนมนุษย์ทั่วไปแล้ว ความเชื่อของคริสเตียนก็จบสิ้นทันที เพราะหลักสำคัญของความเชื่ออยู่ที่การทรงพระชนม์อยู่ของพระเยซูคริสต์ นี่คือหัวใจสำคัญของความเชื่อ เพราะความเชื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักคำสอนในพระคัมภีร์ หลักคำสอนส่วนใหญ่เป็นเพียงการแนะแนวทางที่จะช่วยให้เราเข้าไปถึงพระเยซูคริสต์พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่เท่านั้น และเมื่อเข้าไปถึงพระเจ้าและเราได้สัมผัสกับพระคุณและความรักของพระเจ้าแล้ว เราก็จะได้อยู่และใกล้ชิดกับพระเจ้าซึ่งพระองค์จะทรงดูแลนำพาชีวิตของเราไปสู่สันติสุข ภายใต้ร่มพระคุณและความรักของพระองค์ตลอดไป สิ่งชั่วร้ายใดๆ ก็จะไม่สามารถมาทำลายชีวิตของเราได้เลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่จะปกป้องคุ้มครองเราในทุกสถานการณ์ของชีวิต ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้ที่มีประสบการณ์กับพระเจ้าในชีวิต ต่างก็ยืนยันถึงการทรงพระชนม์อยู่ของพระเยซู จากการที่ได้สัมผัสในความช่วยเหลือของพระเจ้า ที่ได้เปลี่ยนชีวิตสิ้นหวังให้พบกับความสมหวังในชีวิตมากมายนับล้านๆ คน
สำหรับทุกคนเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเพื่อพิสูจน์ว่า พระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์อยู่ในวันนี้หรือไม่ เพียงแต่คุณมีความเชื่อด้วยใจเดินเข้ามามอบชีวิตให้กับพระองค์เท่านั้น คุณก็จะได้สัมผัสกับพระองค์ด้วยตัวของคุณเอง เช่นเดียวกับผู้คนมากมาย ที่ได้ประสบการณ์กับพระเจ้ามาแล้ว
โดย: อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ” และ “บ้านนี้มีรัก”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง