“น้ำใจคนไทยดั้งเดิม”
พูดถึงน้ำใสใจจริงของคนไทยแล้ว เราไม่แพ้ใครในโลกเลย ความมีน้ำใจมีในหัวใจของคนไทยทุกคน อย่างที่เราพูดเสมอว่า “ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ ” แต่น้ำใจเช่นที่ว่านี้ วันนี้ดูจะหาได้ยากกว่าเมื่อหลายสิบปีที่แล้วอย่างเช่น สมัยก่อนตามบ้านในต่างจังหวัดโดยเฉพาะในชนบท แทบจะทุกบ้านตรงหน้าประตูเข้าบ้าน เขาจะตั้งโอ่งน้ำดิน ไว้สำหรับผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้ดื่มดับกระหาย บางบ้านเขาก็จะใส่น้ำยาอุทัยไว้ด้วย สมัยนั้นโอ่งน้ำฝนที่เย็นฉ่ำตามธรรมชาติ มีตั้งไว้แทบทุกบ้าน หากบ้านใดไม่มีถือว่า เชย แล้งน้ำใจ เรื่องแบบนี้คงจะไม่มีประเทศไหนที่ทำกันอย่างบ้านเรา
พอมาถึงวันนี้ โอ่งน้ำดื่มตามบ้านก็ค่อยๆลดน้อยหายไป แทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว หากจะเหลืออยู่บ้างก็คงจะเป็นทางภาคเหนือและทางอีสานในพื้นที่เท่านั้น แต่ก็ยังเหลือน้อยเต็มที อีกไม่นานคงจะไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็หาใช่ว่าคนไทยจะเป็นคนแล้งน้ำใจ แต่คงเป็นเพราะวิถีชีวิตของผู้คนได้เปลี่ยนไป เพราะเมื่อความเจริญเข้ามา ความสะดวกสบายด้วยบริการน้ำขวดแพร่หลาย หาซื้อได้ง่ายในราคาที่ถูกทั้งยังพกพาไปไหนได้ง่ายสะดวกสบาย จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปรบกวนน้ำดื่มของชาวบ้านอีกต่อไป ทั้งยังมีปัญหาของความสะอาดถูกหลักอนามัยด้วย น้ำขวดนั้นเป็นน้ำกลั่นสะอาดบริสุทธิ์ ส่วนโอ่งน้ำดื่มของชาวบ้านไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะสะอาดพอที่จะดื่มได้อย่างสนิทใจหรือไม่? ผู้คนที่สัญจรไปมาจึงไม่กล้าที่จะใช้บริการอีกต่อไป
น้ำใจของคนไทยอีกสิ่งหนึ่งก็คือ สมัยหลายสิบปีก่อน เวลาเดินทางไปต่างจังหวัด โดยเฉพาะชนบทห่างไกลความเจริญ ปัญหาเรื่องที่พักเป็นปัญหาสำคัญ คนเดินทางไม่มีที่พักนอน ดังนั้นทุกครั้งที่มีปัญหานี้ สามารถที่จะไปขอพักหลับนอนตามบ้านของชาวบ้านได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีการปฏิเสธ ทั้งยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนเราเป็นญาติสนิทของเขา หรือรู้จักกันมานาน ไม่มีความระแวงสงสัย ทั้งยังเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี รุ่งขึ้นเมื่อลาจากยังมีข้าวห่อและอาหารแห้งให้ติดตัวไปรับประทานอีกด้วย แต่มาวันนี้สิ่งดีๆเหล่านี้ได้เปลี่ยนไป คงไม่มีใครกล้าไปขออาศัยตามบ้านที่เราหรือเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพราะคนวันนี้หาความไว้ใจได้ยาก
ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของความมีน้ำใจของคนไทยที่ควรจะภูมิใจ ในธรรมชาติความมีน้ำใจของคนไทยเรา ที่มีความเอื้ออารีย์ มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน แม้ความมีน้ำใจดังกล่าวจะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ก็ไม่ใช่เพราะความแล้งน้ำใจ เพียงแต่ช่วงจังหวะเวลาเท่านั้น ที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนไป ซึ่งเมื่อใดที่มีโอกาสและจังหวะเวลาความมีน้ำใจที่หลากหลายก็จะปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ เป็นน้ำใจที่เกิดจากหัวใจของคนที่
“ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง ” ตามหลักที่พระเยซูคริสต์ก็ทรงวางไว้สำหรับเราทุกคน ที่จะนำไปสู่การให้ซึ่งจะทำให้เกิดความสุขยิ่งกว่าการรับ
โดย : อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง