“ไปให้ถึง”

อุปสรรคอันหนึ่งที่ทำให้เราก้าวไปไม่ถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ก็คือ “สารพัดข้ออ้าง” ที่เราสร้างมันขึ้นมา สุดท้ายสารพัดข้ออ้างทั้งหลายก็กลายเป็นอุปสรรคทำให้เรามุ่งหน้าไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราได้ตั้งใจเอาไว้

ความมุ่งมั่นตั้งใจที่เราจะต้องทำให้ได้ และต้องไปให้ถึงนั้นคือ การท้าทายที่ทุกคนจะต้องมี เพราะไม่ว่าเราจะทำสิ่งใดที่ตั้งเป้าเอาไว้นั้นจำเป็นจะต้องมีแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ เพื่อจะช่วยทำให้เราเริ่มต้นทำและมุ่งมั่นบากบั่นจนกว่าจะไปให้ถึงจุดหมายสุดท้ายแห่งความสำเร็จ แรงจูงใจง่ายๆ ที่เราทำได้ก็คือ บอกกับตัวเองในทุกครั้งที่เราจะเริ่มลงมือทำงานทั้งที่เป็นงานใหญ่หรืองานเล็กๆ ก็ตาม บอกกับตัวเองว่า “เราจะต้องทำให้ได้ และต้องไปให้ถึง” ทำใจให้เข้มแข็งเพราะหลายครั้งเมื่อเราจะเริ่มลงมือทำสิ่งใดก็ตาม “ใจ” ของเรานี่แหละที่มักจะสร้างข้ออ้างอันเป็นสารพัดเหตุผล เพื่อทำให้เราชะงักจนเกิดความไม่มั่นใจที่จะลงมือทำ พอเราคิดและตั้งใจจะทำใจของเราก็จะยกข้ออ้างมาเป็นปัญหาให้เราเกิดอาการชะงักทันที เป็นต้นว่า “แน่ใจหรือว่าเราจะทำได้” “เรามีความสามารถไหม” “ตอนนี้เราอาจยังไม่พร้อม” ฯลฯ นี่คือตัวอย่างของสารพัดปัญหาที่ “ใจ” เราจะคิด ไม่ใช่แค่ที่ยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น แต่ละคนจะมีข้ออ้างหรือสารพัดคำถามมากมายหลากหลาย ที่เป็นตัวอุปสรรคต่อการตัดสินใจสกัดกั้นไม่ให้เราทำในสิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำ แล้วสุดท้ายเราก็มักจะเป็นผู้แพ้ต่อ “สารพัดข้ออ้าง” แล้วสิ่งที่คิดและตั้งใจเอาไว้แล้วก็จะสะดุดหยุดอยู่ที่ “แค่คิดว่าจะทำ”เท่านั้นแล้วก็จบ

ถ้าเราจะเป็นผู้ชนะตนเอง ต้องเอาชนะให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่าให้ความอ่อนแอทำให้เราต้องแพ้ใจตัวเองอยู่เสมอ หากยอมเพียงหนึ่งครั้งก็จะนำไปสู่ครั้งที่สองสาม จนเรากลายเป็นคนโลเลขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง สุดท้ายก็ไม่สามารถ “ไปให้ถึง” อยู่ร่ำไป ในขณะที่คนอื่นเขาเดินผ่านไปจนถึงเส้นชัยได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

เริ่มใหม่บอกกับตัวเองดังๆ ว่า ทุกความตั้งใจเราจะต้องเดินไปให้ถึง จะไม่พะวงกับสารพัดข้ออ้าง สารพัดเหตุผลที่จะมาทำให้เราโลเลขาดความมั่นใจจนไม่กล้าเริ่มทำอะไรต่ออะไร ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้

อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร (กาลเทีย 6:9)

โดย: อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ” และ “บ้านนี้มีรัก”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง