“บทเรียนจากความสูญเสีย”

บางครั้งการที่เรามองอะไรในแง่ดีเกินไป ก็อาจจะทำให้กลายเป็นผลเสียหายได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องมองในแง่ที่ไม่ประมาทไว้ด้วย เพราะจะเป็นความรอบคอบช่วยลดความเสียหายและความสูญเสียได้ ในทุกๆเรื่องและทุกๆด้าน

ในชีวิตของเรา เคยประสบความสูญเสียมาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครบอกได้ว่าสิ่งนี้จะหยุดลงเมื่อใด แต่เราเคยคิดหาทางป้องกัน กันบ้างรึเปล่า? นี่คือสิ่งที่เราจะต้องนำบทเรียนที่ได้รับจากความสุญเสีย เพื่อเริ่มต้นใช้บทเรียนดังกล่าวนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเราและสังคมรอบด้าน อย่างจริงจังเสียที ต้องคิดเสมอว่าความประมาทขาดความรอบคอบปราศจากความยั้งคิดได้ฆ่าคนมามาก และจะไม่มีวันลดน้อยลงไปได้ ถ้าเรายังไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายของมัน

เรามักจะพูดอยู่เสมอว่า “ ความประมาทคือความตาย ” ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะความประมาทเกิดจากการขาดสติ ขาดความยั้งคิด เพื่อการไตร่ตรองที่เกิดจากการดื่มเหล้า หรือไม่ก็เพราะความคึกคะนอง จนทำให้เกิดความประมาท เพราะเหตุนี้การใช้สติปัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อเราเพื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบจะได้ไม่เกิดความประมาท

เรามาดูคำตอบที่มีอยู่ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์บอกไว้ดังนี้ “ ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานแก่คนทั้งปวงด้วยพระกรุณา และมิได้ทรงตำหนิ ” (ยากอบ1:5) มีบางคนอยากจะขอสติปัญญาที่ถูกต้องจากพระเจ้า แต่กลัวจะถูกตำหนิและถูกมองว่าเป็นคนโง่ ความคิดดังกล่าวนี้ทำให้เราเกิดความไม่กล้า และความโลเล ต้องสลัดออกไปจากความคิดเราให้ได้ อย่าให้มาเป็นอุปสรรค ต่อความเชื่อที่เรามีอยู่ จนเราไม่กล้าขอและขัดขวางสติปัญญาที่มาจากพระเจ้า ที่จะเป็นตัวช่วยขจัดความประมาณขาดความยั้งคิดทั้งหลาย ความสูญเสียใหญ่น้อยจึงยังคงมีอยู่อย่างซ้ำซากต่อไป

สติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้แก่เรานั้น จะทำให้มีความรอบคอบ มีความยั้งคิด และไตร่ตรองจะได้ รู้ว่าอะไรดีอะไรเป็นที่ชอบ และอะไรยอดเยี่ยม อะไรหรือสิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ สติปัญญาแห่งความถูกต้องจะเป็นสิ่งช่วยชี้นำต่อการตัดสินใจในสิ่งที่ถูกที่ควร ภายใต้การทรงนำจากพระเจ้าอีกด้วย

โดย : อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง